พ่อแม่ปอ ทฤษฎี เผยภูมิใจในตัวสะใภ้ โบว์ แวนด้า ผ่านวันที่กอดคอกันร้องไห้

พ่อแม่ปอ ทฤษฎี ภูมิใจในตัวสะใภ้ โบว์ แวนด้า ผ่านวันที่กอดคอกันร้องไห้

พ่อสงวน แม่พิศมัย รับรางวัลแม่ดีเด่นแทน โบว์ แวนด้า เอ่ยปากชมภูมิใจในตัวสะใภ้คนนี้ เผยเคยกอดคอกันร้องไห้ ซึ้งใจที่อยู่เคียงข้างกันตลอด

เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ต้องเจอกับความทุกข์และความเศร้าแบบไม่คาดคิด สำหรับครอบครัว สหวงษ์ ที่ต้องสูญเสียพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ในที่สุดเวลาก็เป็นตัวเยียวยาให้ความทุกข์นั้นจางหายไปและนำความเข้มแข็ง และรอยยิ้มมาทดแทน โดยมี โบว์ แวนด้าภรรยาคนสวย คุณพ่อสงวน คุณแม่พิศมัย คุณพ่อคุณแม่ของหนุ่มปอ ช่วยกันประคับประคองเลี้ยงดู น้องมะลิ พาขวัญ ให้มีความสุขในทุกวันนี้

ล่าสุด (9 สิงหาคม 2559) คุณพ่อสงวน คุณแม่พิศมัย ก็ได้เดินทางเข้ารับรางวัล แม่ดีเด่น แทน สาวโบว์ ในงานประกาศรางวัลเชิดชูเกียรติคุณคนของแผ่นดิน ครั้งที่ 4 โดยคุณแม่พิศมัย เผยว่า ที่จริงแล้วโบว์อยากมารับรางวัลนี้ด้วยตัวเอง แต่ติดงานที่รับไว้ก่อนตัวเขาเองก็เสียดายที่มาไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งตนและครอบครัวภูมิใจกับโบว์มาก ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันตลอด 70 วัน ที่ปอป่วยอยู่โรงพยาบาล ความผูกพันเราจะมีเยอะมาก แล้วโบว์เขาก็รักปอมาก เขาบอกว่าสิ่งไหนที่ปอรักเขาจะรักด้วย ซึ่งปอเขารักครอบครัว รักพ่อ รักแม่ รักคนรอบข้างของเขา โบว์เขาเลยสานฝันดูแลพ่อแม่ ดูแลคุณปู่คุณย่า ดูแลน้อง ดูแลให้เรามีความสบายใจ ต่างคนต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะก่อนหน้านี้เราก็เคยกอดคอกันร้องไห้ แต่วันนี้เราก็จะกอดคอกันดีใจมีความสุข

ส่วนเรื่องที่ น้องมะลิ ได้เข้าเรียนวันแรกแล้ว คุณแม่พิศมัย ก็เผยว่า ตื่นเต้นกันทั้งบ้าน ตนก็ไปส่งมะลิที่โรงเรียนด้วย ตัวมะลิก็ตื่นเต้นพอไปถึงโรงเรียนเปิดประตูเขาก็ดึงพี่เลี้ยงจะลงไปเลย พวกแม่ยังไม่ได้เอารถไปจอดเลย ไม่ร้องไห้ด้วย ทำกิจกรรมตามที่โรงเรียนบอกทุกอย่าง อาจจะเป็นเพราะเขาเคยอยู่กับพี่จ๋ามานาน เขาก็เลยไม่มีความวิตกกังวล เราก็อยู่ดูเขาจน 9 โมงเช้า แอบดูเขาทำกิจกรรม ส่วนเรื่องถ้าจะมีคนมาขอถ่ายรูปที่โรงเรียนก็ได้คุยกับทางโรงเรียนแล้ว ทางนั้นเขาก็จะดูแลให้

นอกจากนี้ คุณพ่อสงวน ยังเผยถึงเรื่องการรับงานของ น้องมะลิ อีกว่า ไม่มีปัญหา ได้คุยกับทางโรงเรียนแล้ว เพราะเขาอยู่ในชั้นอนุบาลจึงไม่ซีเรียสในเรื่องเวลาเรียน และความเข้มงวดในเชิงวิชาการมันก็ยังไม่มี เรื่องลดงานอีเว้นท์ก็คงต้องดูเวลาเพราะเราให้ความสำคัญกับการเรียนพอสมควร อันไหนที่มันพอจะไปได้ก็ไป ส่วนตัวมองว่ามะลิเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์ทางสังคมอยู่แล้ว พอไปเขาก็ได้เรียน ได้พบผู้คน พูดจาโต้ตอบกับพี่จ๋า เพราะฉะนั้นพัฒนาการทางสังคม ได้ไปเรียนเพิ่มเติมจากโรงเรียน